ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Review ประสบการณ์ทำตากับบียอน(เทคนิคเย็บจุดเดียว)


TOPIC นี้เม้าซ์เอารูปปัจจุบันที่เห็นตาชัดๆ ให้ดูก่อนนะคะ 














 วันนี้เอาใจสาวๆที่เชียร์ให้เขียน Topic นี้กันค่ะ หลังจากที่ทำไปแล้วเกือบ 3 อาทิตย์
ส่วนมากก็ Review ลงแค่ใน IG แต่ก็ไม่สามารถสาธยายได้ยาวเหยียดเท่าในนี้นัก
งั้นวันนี้ลองมาอ่านแบบละเอียดกันดูค่ะ หรือใครที่ search จาก Google ก็สามารถเข้าไป
ดู Review อีกแนวได้ทาง IG เม้านะคะ Search : @arindada.k / @reviewdada ก็ตามสะดวกเลยค่ะก่อนอื่นเม้าต้องขอพูดถึงลักษณะตามเม้าซ์ก่อนนะคะ พร้อมภาพประกอบ ตามที่เคยบอกบ่อยๆ ว่าเม้าไม่เคยศัลยกรรมอะไรมาก่อนนอกจาก "จมูก" จริงๆและตาเป็นอวัยวะที่เพื่อนๆถามถึงบ่อยมาก ว่าทำที่ไหน และเม้าก็ตอบตามความจริงว่าไม่เคยทำซึ่งคนก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง เม้าก็ไม่สามารถที่จะไปขอร้องให้ทุกคนเชื่อได้ทั้งหมดเพราะปกติเม้าไม่ใช่คนแอนตี้เรื่องศัลยกรรมและถึงแม้ว่าจะเป็นคนให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรมแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทำทุกอย่าง เพราะฉะนั้นเม้าทำอะไรเม้าสามารถบอกได้ทุกอย่างค่ะจนมาถึงตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกจริงๆ กับประสบการณ์ "ทำตา" และเม้าเต็มใจที่จะแชร์ให้เพื่อนๆได้ใช้เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจก่อนทำนะคะ






 ปกติเม้าเป็นคนตาสองชั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้วค่ะ แถมเวลาใครเห็นก็ชอบชมว่าตาสวย
ช่างแต่งหน้าก็ชมกันประจำ จึงเป็นอะไรที่รู้สึกภูมิใจ และเหมือนตาน่าจะรู้สึกดีที่สุดบนหน้าตัวเองค่ะ
แต่แล้วเวลาผ่านไป สู้แรงโน้มถ่วงของโลกไม่ไหว ฮ่าๆ ตาข้างซ้ายเม้าดันมีปัญหาค่ะ
ซึ่งค่อนข้างกระทบในชีวิตประจำวัน นั่นคือ บางครั้ง ตามักจะมี 3 ชั้น ไม่ก็ตาตุบลงมา
เวลาถ่ายรูป 116-1.gif จะเห็นชัดมากค่ะ เม้าจะต้องใช้ผมปิดเพื่ออำพรางค่ะ พยายามหาทุกวิถีทางไม่ว่าจะ
ร้อยไหมก็แล้ว Botox ก็แล้ว filler ยังมีค่ะ 99-7.gif เพื่อจะแก้ปัญหานี้ แต่ก็ไม่หายสิ่งที่ทำตอนนั้นคือ
ทำใจอย่างเดียวเลยค่ะ แต่โครงการทำตา ก็ยังไม่อยู่ใน Plan ที่จะทำแม้แต่น้อยค่ะ
จนกระทั่งมาพูดคุยกับเจ้าของคลินิกบียอน ซึ่งสนิทกันแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับหมอ รู้แต่ว่าหมอดาวเก่ง และเม้าคิดแค่ว่า ถ้าหมอเก่งจริงๆ (หลังจากเห็นฝีมือ) จะแนะนำเพื่อนๆต่อ ให้เพื่อนๆได้เก็บไว้เป็นทางเลือกมากขึ้น ถามว่า "ทำไมหมอที่เม้าซ์แนะนำเยอะจัง" เพราะสำหรับเม้า หมอที่ศัลยกรรมเก่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกันค่ะ ถามว่าหมอเฟิสที่เม้าเสริมจมูก ทำตาได้ไหม ?​ หมอทำได้ค่ะ แต่ว่าสำหรับหมอดาว (ที่บียอน) ท่านเป็นหมอจักษุที่จบมาด้านนี้โดยเฉพาะค่ะ ก็จะมีความเชี่ยวชาญกว่า 
สิ่งที่ทำให้เม้าซ์ตัดสินใจทำนั้น เม้าซ์บังเอิญต้องไปส่งเพื่อนเม้าอยู่กรุงเทพมาปรึกษาเรื่องทำตา และอยากแก้ เนื่องจากว่าทำที่อื่นมาแต่ว่าชั้นตาหลุดไม่ชัดเลยอยากมาทำใหม่พูดคุยกันจนตัดสินใจว่า เค้าจะบินมาเชียงใหม่เพื่อทำแล้ววันนั้นเองที่เม้าได้มีโอกาสเจอหมอด้วยตัวเอง
เชื่อไหมว่า ตัดสินใจเพียง 10 นาที ก็นัดทำกระทันหันในวันถัดไปเลยค่ะ เพราะอะไร?​ 
แต่แรกรู้อยู่แล้วว่าหมอเก่ง แต่ไม่เคยเจอด้วยตัวเอง จากการที่ได้พูดคุยกับหมอ มั่นใจมากๆค่ะว่า
หมอสามารถทำให้ปัญหาตาเม้าหายและสวยขึ้นได้ (เม้าคิดว่ามันยากนะคะที่จะทำให้จากเดิมดีอยู่แล้ว
ให้ดีขึ้น) ซึ่งเม้าให้โจทย์หมอแค่ว่า "ขอให้ปัญหาตาซ้ายหายไปและทำให้หางตายาวขึ้น 
ดูตาเด่นขึ้นแต่หน้าไม่เปลี่ยน"  เอาง่ายๆ คือให้คล้ายเดิม ธรรมชาติแต่ดูโดยรวมแล้วเด่นขึ้นค่ะ 
เดี๋ยวมาดูกันค่ะว่า หมอสามารถทำได้ไหม  



พยายามหารูปชัดๆ แต่ตั้งแต่เปลี่ยนเครื่องใหม่หายไปหมดเลยค่ะ รูปนี้น่าจะเห็นชัดที่สุด ซึ่งเพื่อนๆลองคิดดูว่า
นี่ขนาดแต่งหน้าด้วย และเป็นมุมที่เราถนัดแต่ในชีวิตจริงยากมากที่จะพยายามถ่ายเพื่อให้ออกมาเห็นปัญหานี้น้อยสุดค่ะ
ส่วนมากจะใช้ผมปิดข้างนั้นไม่ก็ต้องพยายามขยี้อยู่นานเลย ชั้นตาจะหายบ้าง สามชั้นบ้างไม่ก็ตาตกบ้างสลับกันกวนใจเราค่ะ

แล้วในรูปนี้คือติดขนตาทั้งสองข้างนะคะ ข้างนี้ขนตาเด้งสวยสมใจ อีกข้างเห็นเลยว่าตกค่ะ ขนตาก็ตกลงด้วย 




 แต่พูดถึงการทำตา ว่ากว่าจะขออนุญาตแฟนได้ก็นานพอควรค่ะ เพราะเค้าไม่อยากให้ทำอะไร 

นอกจากจมูกตามที่เม้าซ์เคยทำมาแล้วคบกันนานแล้ว หาก เม้าซ์จะทำอะไรเค้าจะทราบค่ะ
และด้วยความเกรงใจเม้าซ์ก็ต้องพูดคุย ขออนุญาตเค้าก่อน  คราวนี้ก็ขออยู่นานเลยค่ะ 
ตอนแรกค้านหัวชนฝาอย่างเดียว แต่เค้าก็เข้าใจในเหตุผลที่เป็นปัญหาในชีวิตประจำวัน
เค้าถึงอนุญาตให้ทำค่ะ และย้ำอย่างเดียวว่า อย่าให้หน้าเปลี่ยนถ้าเปลี่ยนขู่เลิกด้วยนะคะ ฮ่าๆ 
เพราะงั้นเม้าซ์ก็จัดเลยค่ะ 55+ 



83-4.gif  รามาเริ่มกันที่ขั้นตอนประสบการณ์ทำตาของเม้าซ์กันค่ะ 84-4.gif




ปกติก่อนที่จะทำลูกค้าจะได้พูดคุย ปรึกษาคุณหมอก่อนนะคะ แต่กรณีเม้าไม่ต้องแล้วค่ะ 

เพราะเมื่อวานพูดคุยทำความรู้จักกันนานพอควร ฮ่าๆ วันนี้เลยมาถึงก็ 1)คลีนหน้า  95-7.gif ก่อนเลยค่ะ 
(แนะนำว่าใครจะมาทำไม่ต้องแต่งหน้ามานะคะ เพราะยังไงก็ต้องคลีนออกอยู่ดี 
คอนแทคเลนส์ไม่ต้องใส่นะคะ ตาจะให้ดีไม่ต้องเขียนหรือทำอะไรมาเลยยิ่งดีค่ะ) 
หลังจากนั้นพนักงานจะ 2) แปะยาชา 96-7.gif 98-6.gif บริเวณหนังตาให้เราค่ะ ต่อจากนี้ก็รอหมออย่างเดียว 
ก่อนเข้าห้องผ่าพนักงานก็จะคลีนยาชาออกให้อีกครั้งค่ะ แล้วขึ้นเขียงรอคุณหมอเลย 
ตอนไปถึงและตอนแปะยาชายังไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อยค่ะ ตอนขึ้นเขียงก็ยังค่ะ ชิวมาก 
พอหมอมาเท่านั้นล่ะ ..... 15-6.gif20-6.gif ตอนนั้นแทบจะเปลี่ยนใจไม่ทำแล้ว จำความรู้สึกตอนเสริมจมูกครั้งแรกได้เลย ตื่นเต้นกลัวมาก อาการป๊อดชัดมาก ฮ่าๆ ถามหมอแต่ว่า "เจ็บไหมๆ" กำลังใจเพียบค่ะ 
หมอน้อง , เจ้าของคลินิก ,พนักงาน, ตากล้องก็มาค่ะ ฮ่าๆ  
ห้องที่ใช้ผ่าตัดจะเป็นห้องปลอดเชื้อนะคะ แล้วเราก็ต้องใส่หมวกเก็บผม แล้วหมอจะทำความสะอาด
หน้าเราอีกครั้งตามรูปเลยค่ะ 



การทำเราไม่ใช้ยาสลบนะคะเพราะไม่ถือว่าเป็นผ่าตัดใหญ่ค่ะและเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าหลายท่านที่บินมา
ส่วนมากเสร็จแล้วจะบินกลับเลย บางรายหากใช้ยาสลบตื่นมาจะมีอาการมึน เบลอ อาจจะลำบากในการเดินทางกลับเองค่ะ
หลังจากนั้นก็มีผ้าปลอดเชื้อวางบนหน้าเราค่ะ ถึงตอนนี้เราจะไม่สามารถจับหน้าได้แล้วนะคะ 
นอนหลับตาทำใจอย่างเดียว ตอนนี้เม้าเกร็งมากค่ะ 13-6.gif บีบมือจนแดงเท้านี่เหงื่อแตกเลยค่ะ ฮาๆ 


นระหว่างนี้ก่อนที่คุณหมอจะลงมือทำหลังจากทายาฆ่าเชื้อโรคหมอจะวิเคราะห์ตาเราอีกครั้งเพื่อความแน่นอนค่ะ
ว่าจะทำออกมาลักษณะไหน ความกว้าง ความยาวเท่าไหร่ เราก็นอน เฉยๆค่ะ แต่หมออาจจะมีถามเราบ้าง



ก่อนทำหมอจะหยอดยาชา  ใส่ในตาเราก่อนค่ะ เม้าซ์ไม่แน่ใจว่าเป็นยาชารึเปล่าแต่ต้องหยอด
จะแสบๆเย็นๆนิดหน่อยค่ะ ตาแดงเลย ความรู้สึกเหมือนเราหยอดตาทั่วไปค่ะ แล้วหมอก็จะฉีดยาชาที่เปลือกตาเราก่อนค่ะ (ขั้นตอนนี้เค้าบอกเจ็บที่สุดไอ่เราก็ตื่นเต้นมาก ลุ้นแทบตาย ปรากฏว่าเม้าไม่เจ็บนะคะ เฉยๆเลย)  25-5.gif อาจจะเพราะก่อนทำพนักงานแปะยาชาให้ด้วย เลยช่วยลดอาการเจ็บ 
ไม่ก็เม้าดื้อเข็มแล้ว ฉีดนั่นนี่บ่อย เลยไม่รู้สึกเจ็บอะไรค่ะ หลังจากนั้นหมอก็เริ่มทำแล้วค่ะ 
หลังจากผ่านขั้นตอนการฉีดยาชามาแล้ว ความเกร็งและตื่นเต้นลดลงเยอะเลยค่ะ 
ช่วงนี้ก็นอนสบายๆเลย หมอก็จะเริ่มทำ .. ซึ่ง ขั้นตอนตั้งแต่นี้เม้าซ์ไม่ขออธิบายนะคะ 
เป็นส่วนของเทคนิคคุณหมอแล้วค่ะ  เราก็มีหน้าที่นอน ไม่เจ็บไม่รู้สึกอะไรเลย 
นอนคุยกับหมอ บางทีหมอก็จะบอกให้ลืมตามองบ้าง เป็นพักๆค่ะ สบายๆเลย 
บอกเลยว่าทำจมูกรู้สึกมากกว่าทำตาค่ะ (แต่ทำจมูกก็ไม่เจ็บนะคะ แต่ยังรู้สึกมากกว่าทำตา) 




96-4.gif ไปดูรูประหว่างทำกันนะคะ 96-4.gif















  หลังทำสามารถกลับได้ทันทีค่ะ ใช้เวลาทำราวๆ 1 ชม. 5-3.gif ในเคสเม้าซ์นะคะ แต่ละเคสใช้เวลาต่างกัน ซึ่งเคสเม้าซ์ไม่ต้องดูดไขมันออกค่ะ ถ้าเกิดต้องดูดไขมันออกอาจจะใช้เวลาทำนานมากกว่านี้ 
ทำเสร็จปกติเลยค่ะ การลืมตาปกติ การมองเห็นปกติ ไม่มึนไม่ง่วงเลยนะคะเพราะเราใช้การฉีดยาชา
ไม่ได้ใช้ยาสลบอะไรค่ะ เนื่องจากหลังทำลูกค้าต้องเดินทางกลับจะได้ไม่ลำบากค่ะ
ยาที่ลูกค้าได้จะมี 115.gif ยาแก้ปวด (ทานตอนปวด) แก้อักเสบ (ทานจนหมด) แก้บวม (หยุดทานเมื่อหายบวม) 98-6.gifซึ่งได้ยาเหมือนตอนเสริมจมูกเลยค่ะ เม้าซ์ทานแค่ครั้งเดียวหลังทำเสร็จ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทานเลย ฮ่าๆ แต่เพื่อนๆไม่ต้องเอาเป็นตัวอย่างนะคะเพราะเม้าซ์ไม่มีอาการปวดเลยแม้แต่น้อย 
จะแค่รู้สึกตึงนิดหน่อย ไม่อยากทานยาเยอะ โชคดีที่ไม่ว่าทำอะไรร่างกายพักฟื้นไวมากค่ะ 

 ในส่วนของรีวิวแต่ละวัน เม้าไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้นะคะ แต่จะมีเป็น Clip เลยเพื่อให้เพื่อนๆเห็นพัฒนาการ และหากใช้รูป เดี๋ยวมีคนคิดว่าใช้ Filter แต่ง เม้าซ์เลยอัดคลิปอย่างเดียว เกือบทุกวัน หลังจากทำ แต่ไม่ได้เก็บไว้ ยังไงถ้าเพื่อนๆเข้ามาอ่านในนี้ และต้องการดูคลิป
รบกวนเข้าไปติดตามได้ทาง Instagram : arindada.k นะคะ ย้อนดูคลิปได้ค่ะ 
หรือจะให้สะดวก search hashtag #dadaeyelid ได้เลยค่ะ รับรองรีวิวทำตาขึ้นมาครบค่ะ 



มาดูต่อในส่วนของการดูแลหลังทำค่ะหลายคนกังวลว่าจะดูแลยาก 

ถาม    สามารถโดนน้ำได้วันไหน ?​ 
ตอบ    ทันทีที่รู้สึกว่าแผลแห้งก็โดนได้เลยค่ะ แต่ให้รีบซับให้สะอาดด้วยกระดาษทิชชูหรือสำลีสะอาด
ทันทีหลังโดนน้ำจะปลอดภัยที่สุดค่ะ ป้องกันการติดเชื้อที่เราไม่อาจคาดคิดได้นะคะ 
ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ สบายใจ

ถาม    กี่วันตัดไหม?​
ตอบ    ด้วยเทคนิครอยแผลที่น้อยมาก เย็บเพียงจุดเดียวของหมอที่นี่ ทำให้แผลหายไวค่ะ 
ปกติเพียง 5 วันก็สามารถตัดไหมได้แล้วค่ะ แต่ของเม้าซ์หายไวมากๆ กว่าที่หมอคิด 
แค่2 วันเม้าซ์ก็ตัดไหมได้แล้วค่ะ (สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่เชียงใหม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องตัดไหมนะคะ สามารถตัดที่ไหนก็ได้ใกล้ๆ กับที่เราอยู่ค่ะ เค้ารับตัด เสียไม่กี่ร้อยค่ะ) 

ถาม    แต่งหน้าได้วันไหน?​
ตอบ    ทันทีที่ตัดไหมค่ะ แต่ว่าเม้าซ์ดื้อ และอย่างที่บอกว่าแผลหายไว ยังไม่ทันตัดไหม วันที่ 2 
เม้าซ์ต้องออกไปทานข้าวกับปะป๊าแฟน เม้าซ์ก็จัดแล้วค่ะ ฮ่าๆ แอบกรีดอายนิดหน่อย 
แต่ไม่ยุ่งกับบริเวณแผลนะคะ ไม่ทาอะไรเลย แต่บริเวณอื่นแต่ง ทา ปกติค่ะ 
ปรากฎว่า ปะป๊าแฟนไม่รู้ว่าทำตามาค่ะ (อย่างที่บอกว่า แต่เดิมเม้าซ์เป็นคนตาสองชั้นอยู่แล้ว 
และที่ทำเพื่อแก้ไขปัญหาตาซ้ายอยู่แล้ว ส่วนชั้นตากว้างขึ้นหน่อย จะเหมือนแค่คนตาบวมขึ้น
ซึ่งท่านไม่รู้เลยค่ะ) จะเห็นแค่รอยเวลาหลับตา เป็นรอยเย็บแดงๆ นิดหน่อย  


ลักษณะรอยตามนี้ค่ะหลังทำราวๆ 2 วัน จะเห็นไหมนิดหน่อยและรอยแผลเล็กน้อย

ถาม     สามารถไปไหนมาไหนได้ตั้งแต่วันไหน​?​
ตอบ    สำหรับเพื่อนๆที่กังวลว่าต้องลางาน ลาเรียนกี่วัน เม้าซ์ขอบอกตรงนี้เลยนะคะ ว่า 
ไม่จำเป็นต้องลาเลยค่ะ เพื่อนๆสามารถไปเรียน ไปทำงานได้ตามปกติเลยจริงๆค่ะ 
แต่งหน้าอำพรางหน่อยให้ดูปกติที่สุด ส่วนตาก็เกลี้ยงๆไปบ้าง อาจจะดูผิดสังเกต 
แต่ก็ไม่ได้ดูแย่อะไรเลยค่ะ  


อันนี้เป็นลักษณะหลังทำ 1-2 ว้นแรกค่ะ ชั้นตาจะดูใหญ่ผิดปกติ เพราะยังบวมอยู่ เหมือนคนร้องไห้ค่ะ
ถ้าไม่สังเกตดีๆจะไม่ทราบได้เลยค่ะ จะเห็นแค่ตอนหลับตา
ถาม    ชั้นตาจะหลุดไหม ?
ตอบ    เทคนิคของหมอที่นี่ที่เป็นจุดเด่นและมีหมอไม่กี่คนสามารถทำได้นั่นเรียกว่า 
"เทคนิคการเย็บจุดเดียว" ค่ะ เป็นการกรีดและเย็บกับชั้นกล้ามเนื้อแน่นมาก  ซึ่งโดยปกติ 
หลายคนที่เคยมีประสบการณ์ทำตามักจะเย็บกัน 3 จุดอย่างต่ำ แถมยังเกิดปัญหาหลังทำ
ตามมานั่นคือชั้นตาหลุดหาย แล้วนับประสาอะไรกับเย็บจุดเดียวใช่ไหมคะ ?​
แต่เปล่าเลย การเย็บจุดเดียวของที่นี่เป็นเทคนิคเฉพาะตัวค่ะ ปกติยิ่งแผลน้อย แผลเล็ก 
ยิ่งแพง แต่นี่เม้าซ์สามารถการันตีให้ลูกค้าในส่วนของลูกค้าที่เม้าซ์ดูแลได้หลังทำค่ะ 
ว่าไม่หลุดแน่นอน หากมีเคสหลุดจริงๆ ทางคลินิกดูแลทำใหม่ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ สบายใจได้
ซึ่งวิธีนี้คุณหมอแนะนำว่า เหมาะสำหรับคนไทยหรือเอเชียค่ะ เพราะส่วนมากมีดวงตาขนาดเล็กและ
ไขมันมาก เทคนิคนี้เองทำให้แผลมีความบอบช้ำน้อยมาก (บางคนไม่ช้ำเลยค่ะ) หลับตาได้สนิท 


ถาม    ค่าเสียหาย?​
ตอบ    หลายคนจดจ่อรอคำถามนี้ ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการปรับเปลี่ยนราคานะคะ 
แต่​ ณ​ ตอนนี้ราคาเป็น 35,000 ถ้วนค่ะ รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งการดูดไขมัน ค่ายา ค่ะ 




ปิดท้ายที่ประวัติคุณที่นี่กันค่ะ 
 หมอจบแพทย์ศาสตร์บัณฑิต คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 
วุฒิบัตรเชี่ยวชาญทางจักษุวิทยา และ วุฒิบัตรเชี่ยวชาญด้านกระจกตาและการแก้ไขสายตา 
คงการันตีฝีมือคุณหมอกันได้นะคะ และที่สำคัญถ้าเพื่อนๆได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณหมอ 
คงจะมั่นใจอย่างมากเหมือนเม้าซ์ค่ะ ไม่ลังเลเลยที่จะทำ 


 ถึงตรงนี้ เวลาผ่านมาราวๆ 3 อาทิตย์แล้ว ถามเม้าซ์ว่ามีปัญหาอะไรไหม?​
เม้าซ์กล้าตอบด้วยจรรยาบรรณการเป็น blogger ของตัวเองได้ค่ะว่า "ไม่มีเลย" 
เพราะหากเม้ากล้าแนะนำเพื่อนๆแล้ว นั่นแสดงว่าเม้าซ์ประทับใจจริงๆค่ะ 
แต่เพื่อนๆอย่าลืมกันนะคะว่า "ว่าด้วยเรื่องของการศัลยกรรมแล้ว" เม้าซ์เขียนและแนะนำ
ในส่วนของเม้าซ์ค่ะ   การศัลยกรรมค่อนข้างจะละเอียด ต่อให้หมอเก่งแค่ไหน  
ก็ใช่ว่าจะถูกใจเพื่อนๆทุกคน และเป็นไปได้ที่ทำออกมาอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นบ้าง 
ซึ่งถ้าโชคดีเราก็ไม่เจอค่ะ เม้าซ์เองรีวิวทุกอย่างด้วยความจริงตามประสบการณ์ตัวเองค่ะ 
อาจจะเพราะโชคดีด้วยที่ทำออกมาแล้วดีไม่มีปัญหาอะไร เพราะถ้าเป็นไปได้ 
ไม่ว่าจะหมอท่านไหนก็ไม่อยากให้เกิดปัญหาใดๆกับลูกค้าเช่นกันค่ะ 
อีกทั้งก็อยากให้ออกมาสวยถูกใจลูกค้าทุกคน แต่ต่อให้หมอเก่งแค่ไหน บางครั้ง
การศัลยกรรมก็ใช่ว่าทำครั้งเดียวจะถูกใจเลย เพราะความพอใจส่วนตัวก็ไม่มีกำหนดตายตัว 
เพราะงั้นสิ่งที่เม้าซ์นำเสนอ นั่นคือ "ประสบการณ์ของตัวเม้าซ์เองค่ะ  
และการให้คำปรึกษาเรื่องศัลยกรรมที่เม้าซ์ทำอยู่นี้ ก็มีขีดจำกัดและเคสหลายรูปแบบ 
ไม่ได้จะราบรื่นเสมอไปค่ะ ทุกคนที่มาทำตามเม้าซ์ไม่ได้จะถูกใจทุกคน 
ซึ่งเม้าซ์เองทำหน้าที่ตัวเองได้เท่านี้ คิดว่าดีที่สุดแล้ว ที่เหลืออยู่ที่การพิจารณาตามวิจารณญาน
ของเพื่อนๆก่อนทำเองเลยค่ะ ศึกษาจนกว่าจะมั่นใจและเลือกที่มั่นใจที่สุดพอค่ะ 
ขอให้เพื่อนๆโชคดีนะคะ การศัลยกรรมไม่ได้จะเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตเราได้ 
อย่าลืมสวยขึ้นแล้วยกระดับจิตใจตัวเองไปด้วยนะคะ เม้าซ์เชื่อว่า ถ้าเพื่อนๆจิตใจดีด้วย 
และหน้าตาสวยด้วย ยังไงก็มีความสุขขึ้นค่ะ อะไรๆก็ดีตาม ^^ 



75-4.gif  ส่วนในเรื่องของการปรึกษา และ การจองคิว เม้าซ์ยินดีให้คำแนะนำและช่วยเหลือเพื่อนๆค่ะ 

Instagram : arindada.k / reviewdada
Line @arindada.k  มี@นะคะ
Tel : 0946012494 (รบกวนโทรก่อน 1 ทุ่มนะคะ) 




หลังจากที่เริ่มเข้าที่แล้วค่ะ ไม่ได้ดูต่างจากเดิมมากแต่ตัวเราจะสังเกตได้ค่ะ ว่าเปลี่ยนไป
ชั้นตากว้างขึ้นนิดหน่อย หางตายาวขึ้น ไม่ตกเหมือนแต่เดิม รู้สึกตาเด่นขึ้น ไปไหนมาไหนคนก็
ถามค่ะว่า ทำอะไรมารึเปล่า ?​ดูดีขึ้นแต่ก็ไม่มีใครสังเกตได้ค่ะว่าทำอะไรมา 




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Reviewตัดเหงือกกับ Dental me เชียงใหม่ (Gummy Smile)

Topic นี้เม้าซ์ขอแหวกแนวบ้างนะคะ จากที่จะพูดเรื่องศัลยกรรมขอมาที่เรื่อง "ฟัน" บ้างนะคะ  เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่เม้าซ์อยากจะทำมานานมากแล้ว และเป็นเหมือนปมด้อยที่ถูกล้อบ่อยๆ นั่นคือเรื่องของ  "ยิ้มเห็นเหงือก"  ค่ะ หรือเรียกแบบเก๋ๆว่า  Gummy Smile  ฟังดูน่ารัก เนาะ ฮ่าๆ  มาขยายความเรื่องนี้กันหน่อยนะคะ ก่อนจะไปตามอ่านรีวิวกัน  Gummy Smile   คือการที่เวลายิ้มแล้วเห็นเหงือกมากกว่าปกติค่ะ ที่ฟันบน แน่นอนว่าใครที่มีปัญหานี้คงขาดความมั่นใจ เพราะมันดูไม่สวย ยิ่งเม้าซ์นี่ทำงานด้านนี้ ยิ้มเห็นเหงือกไม่พอ แต่ฟันเล็ก สั้นด้วยค่ะ ปากก็เล็ก ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม เหมือนฟันหนู บางคนก็บอกน่ารักดี แต่ตัวเหงือกนี่แหละค่ะตัวปัญหา เลยกลายเป็นคนยิ้มไม่เป็น พอถ่ายรูปทีตากล้องต้องขอให้ยิ้มเห็นฟันตลอด ก็รู้สึกทำได้ไม่ดี แล้วเวลาเผลอหัวเราะ คุยเรื่องสนุกกับเพื่อน ยิ้มทีเหงือกมาเต็มค่ะ ยิ่งเวลาเจอเก็บภาพช่วงเผลอ ตอนหัวเราะ ตอนยิ้มเห็นเหงือกแบบที่ว่า ยิ่งดูน่าเกลียดไปกันใหญ่  แฟนก็ล้อตลอด แล้วเป็นคนฟันสั้น ปากเล็กด้วยค่ะ ถ้ายิ้มธรรมดากฌจะไม่เห็นเท่าไหร่ ต้องตอนเผลอ   เลยกลาย

แค่เริ่มจากล้างหน้าให้สะอาดก็เข้าใกล้หน้าใส

ก่อนที่จะอ่าน Topic นี้เม้าขอเพื่อนๆอย่างนึงว่า  "ขอให้อ่านจนจบค่ะ แล้วสงสัยตรงไหนค่อยถามหลังอ่านจบแล้วนะคะ" เหตุผลที่เม้าเขียนเรื่องนี้ขึ้นก็เพราะ แชร์ประสบการณ์การดูแลผิวสำหรับเพื่อนๆที่อยากหน้าใส ได้รู้วิธีที่ถูกต้อง และเป็น Topic ที่อยากจะให้ทุกๆคนได้อ่าน เพื่อเข้าใจอะไรที่ถูกต้อง และเพื่อแบ่งเบาตัวเองด้วย เนื่องจากเรื่องผิวค่อนข้างละเอียดอ่อน เม้าไม่สามารถที่จะนั่งตอบคำถาม และอธิบายให้ทุกคนที่เข้ามาปรึกษาได้อย่างยาวเหยียดว่า เราต้องทำยังไงกับผิวหน้าตัวเองบ้าง เพราะเรื่องผิวละเอียดมากๆค่ะ และการจะให้คำปรึกษาแต่ละเคส ใช้เวลานานมากเช่นกันค่ะ "หากอยากจะหน้าใส ถ้าคิดว่าตัวเองยังไม่รู้วิธี เพื่อนๆเองก็ต้องเริ่มจากอ่านค่ะ อ่านมันให้จบ และหลังจากนั้น ค่อยถามในสิ่งที่เม้าไม่ได้เขียนไว้ใน Blog นี้  ได้ตามสบายค่ะ เพื่อแบ่งเบาให้เม้าและเพื่อตัวเพื่อนๆเองจะได้เข้าใจอย่างละเอียดน้า จะได้ดีกับทั้งคนให้คำปรึกษาและเพื่อนๆเองนะคะ"  สิ่งที่เม้าจะเขียนนี้ คือ “การดูแลผิวหน้าตามแบบเม้าซ์ ” นั่นเพราะว่ามีวิธีดูแลผิวอีก 108 พันอย่าง